จี้จ่าฝูงนิดเดียว การท่าเรือ เอฟซี 2-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
จี้จ่าฝูงนิดเดียว อดิอำนาจ ไกรษร รวมทั้ง เนลสัน โบนีญ่า กระแทกคนละเม็ดให้ การท่าเรือ เอฟซี เปิดรังเอาชนะ เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด 2-0 ทำให้สิงห์เจ้าท่าเก็บชัย เป็นเกมที่ 7 ต่อเนื่องกันในลีก
และก็ 8 เกมรวดรวมทุกรายการ รีรองผู้นำฝูงถัดไป โดยการทำคะแนนไล่จักจี้ บีจี ปทุมฯ เหลือ 4 แต้ม ในขณะที่ กิเลนลำพองรั้งชั้น 9 ของตาราง
เริ่มเกมมาทั้งคู่ก ลุ่มต่างพากเพียร ทำเกมบุกของตนเอง แม้กระนั้นเกม จำนวนมากจะปะทะ อยู่กันที่กึ่งกลางสนาม เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที
ทั้งคู่กลุ่มยังไม่มี จังหวะจบสกอร์ แบบกระจ่าง ทำให้ การท่าเรือ เอฟซี ยังเสมอกับ เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด อยู่ 0-0
จากนั้นอีก 2 นาทีถัดมา จากจังหวะวางบอล ยาวของเจ้าถิ่น ก่อนเป็น บดินทร์ หน้าผาลา เอาบอลลงก่อนเลี้ยงไปสุดเส้นข้างหลังแล้วเปิดเข้ามาหน้าปากประตูให้ อดิอำนาจ ไกรษร เข้าชาร์จไม่ถึงบอล ทำให้บอลเลยไปถึง เควิน ดีรมรัมย์ เจ๊ากับทีมเก่า
สบโอกาสยิงแต่ว่าบอลไปติดเซฟของ ดัง วาน ลัม ปัดบอลออกมาได้ แต่ว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะบอลออกข้างหลังในจังหวะที่ก่อน บดินทร์ เขาหินลา จะเปิดบอลเข้ามา
นาทีที่ 17 สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลด้านขวา ก่อนเปิดบอลเข้ามาในจุดโทษให้ แดร์เลย์ สลัดหนีตัวเกาะติด ก่อนขัดบอลหลุดเสาออกไป
ต่อจากนั้นอีก 3 นาที กลุ่มเยี่ยมยังสบโอกาสลุ้นประตู เมื่อ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลด้านขวา ก่อนวางบอลเข้าไปในจุดโทษ
แล้วเป็น แดร์เลย์ ใส่ขึ้นมาโหม่งบอลลอยโด่งเกือบจะเข้าประตู แต่ว่ายังเป็น วรวุฒิ ศรีสุภา ย้อนกลับไปรับบอลได้ก่อนที่จะบอลจะเข้าประตู
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 31 เจ้าถิ่นได้โอกาสบุก ก่อนเป็น บดินทร์ หน้าผาลา รับบอลยาวจากดินแดนข้างหลังทางซ้ายของกรอบจุดโทษ ก่อนที่จะ บดินทร์ หน้าผาลา จะเลี้ยงหลบ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ เข้ามาในจุดโทษแล้วยิงด้วยขวา
บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ว่า ดัง วาน ลัม ปัดบอลออกมาเข้าทาง อดิศักดา ไกรษร สบโอกาสยิงซ้ำเตียนโล่งๆเข้าไป ช่วยทำให้ การท่าเรือ เอฟซี ออกนำเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 โดย “อุลตร้ากอล์ฟ” ไม่แสดงท่าดีอกดีใจเพื่อเกียรติยศ “กิเลนทะนง”
ไปสู่ น.33 เมืองทองฯ เพียรพยายามเปิดเกมบุก วัฒนา พลายนุ่ม ปะทะกับผู้เล่นเจ้าถิ่นจนกระทั่งล้มลงในกรอบจุดโทษ แต่ว่าผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี ไม่ว่าอะไร และไม่มีการเรียกมองวีเออาร์ย้อนไป
จี้จ่าฝูงนิดเดียว นาทีที่ 44 ไดสุเกะ ซาโตะ มีจังหวะเข้าปะทะกับ เซร์คิโอ ซัวเรซ ก่อนที่จะผู้ตัดสินจะเป่าเป็น ไดสุเกะ ซาโตะ เป็นคนฟาวล์ แม้กระนั้นภาพ ช้าทำให้เห็นว่า จังหวะเข้าปะทะเป็น เซร์คิโอ ซัวเรซ ที่ดู
แม้กระนั้นบอลจนกระทั่งใช้ศอกไปชนเข้าที่เข้าทางรอบๆหน้าของ ไดสุเกะ ซาโตะ จนกระทั่งมีแผลแตก
จากนั้นไม่มีกลุ่มใดทำคะแนนเพิ่มเติมอีกได้ หมดเวลาการประลองครึ่งแรก การท่าเรือ เอฟซี นำ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 เริ่มช่วงหลังในนาทีที่ 48 เจ้าถิ่นสบโอกาสเตะมุมก่อนเป็น
ปกรณ์ เปรมภักดิ์ รับหน้าที่เปิดเข้ามาก่อนเป็น เอเลียส ดอเลาะ ได้โอกาสโหม่งบอลเกือบจะเข้าประตู แม้กระนั้นยังเป็น ลูคัส โฮช่า สกัดบอลออกมาได้ แต่ว่าบอลยังไปเข้าทาง เอเลียส ดอเลาะ อีกที ก่อนพากเพียรยิงซ้ำบอลไปโดนแขนของ วัฒนา พลายนุ่ม
ก่อนที่จะต่อไปอีก 1 นาที ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี หยุดเกมเพื่อรอคอยเช็กวีเออาร์ว่า ท่าเรือจะได้จุดลูกโทษหรือเปล่า ภายหลังที่นักฟุตบอลท่าเรือฟ้องว่า บอลไปโดนแขน วัฒนา ในกรอบจุดโทษ ก่อนการวินิจฉัยข้างหลังเช็กแล้วว่า ไม่เป็นจุดลูกโทษอะไร ข่าวบอลไทย
นาทีที่ 55 ไดสุเกะ ซาโตะ ส่งบอลให้ สรำไพทย์ พานทอง ได้บอลหลุดเข้าในจุดโทษ ก่อนได้โอกาสยิงบอลแต่ว่ายังเป็น วรวุฒิ ศรีสุภา ปัดบอลออกมาได้
จี้จ่าฝูงนิดเดียว ก่อนที่จะในจังหวะถัดมา เซร์คิโอ ซัวเรซ ปะทะกับ ไดสุเกะ ซาโตะ ในลักษณะก็จะคล้ายกับการย่ำเท้า แม้กระนั้นผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร และไม่ได้มีการเรียกมองวีเออาร์
นาทีที่60กิเลนเย่อหยิ่ง ชวดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ สรวิทย์ พานทอง ได้บอลหลุดขึ้นมาด้านขวา ก่อนเปิดเข้าไปในจุดโทษ แล้วเป็น แดร์เลย์ จับบอลก่อนหมุนหลับ
แผงหลังของท่าเรือ แล้วดึงบอลหลบ วรวุฒิ ศรีสุภา อีกรอบ ก่อนสบโอกาสยิงเตียนๆแต่ว่ายังเป็น เอเลียส ดอเลาะ ที่ไปยืนสกัดบอลที่บนเส้นประตูได้ ก่อนบอลจะมาเข้ามือ วรวุฒิ ศรีสุภา รับเอาไว้ แล้วเป็น แดร์เลย์ ที่อุตสาหะจะยิงซ้ำก่อนถูกจับฟาวล์ไป
นาทีที่ 86 เซร์คิโอ ซัวเรซ ส่งบอลทะลุช่องออกไปด้านขวาให้ เนลสัน โบนีญ่า สบโอกาสยิงเต็มข้อจ่ายบอลผ่านมือของ ดัง วาน ลัม เข้าประตูไป ช่วยทำให้ “สิงห์เจ้าท่า” นำห่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 ดูบอลสด
นาทีในที่สุด สหรัฐ กันยะโรจน์ ของเมืองทองโดน เอเลียส ดอเลาะห์ แทงคว่ำ แต่ว่าผู้ตัดสินยังไม่ว่าอะไร และไม่มีการเรียกมองวีเออาร์ด้วย ก่อนที่จะยอมเป่า หยุดเกมเพื่อ มองอาการ หลังจากนั้น
จี้จ่าฝูงนิดเดียว ต่อไปไม่มีกลุ่มใดทำแต้มเพิ่มเติมอีกได้ หมดเวลาการแข่งขันชิงชัย การท่าเรือ เอฟซี เปิดรังเอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญ
พร้อมเป็นชัยเกมที่ 7 ต่อเนื่องกันในลีก รั้งรองจ่าฝูง มีแต้มตามหลัง บีจี สัตตบุษย์ เหลือ 4 คะแนน ตอนที่ “กิเลนเย่อหยิ่ง” อยู่ชั้น 9 ของตาราง
